สวัสดีค่ะ เห็นหลายๆกระทู้รีวิวศัลยกรรมเกาหลีแล้ว เราก็อดใจไม่ได้ที่จะแบ่งปันข้อมูลการทำศัลยกรรมที่เกาหลีของตัวเองบ้าง
ก่อนอื่น แนะนำตัวก่อนค่ะ
ชื่อจริง เปมิกา อายุ 43 ปี ชื่อเล่นปูเป้ค่ะ หรือเรียกสั้นๆง่ายๆว่า เป้ ก็ได้ค่ะ จะพี่เป้ น้องเป้ หรือจะเรียกเป้ เฉยๆก็ได้
(ส่วนป้าเป้ ไม่จำเป็นอย่าเรียก เลยเนอะ ^^)
☀
จุดเริ่มต้น “ทำไมอยากทำศัลยกรรม”
…แล้วทำไมถึงอยู่ๆถึงทำศัลยกรรม ? นี่เป็นคำถามจากเพื่อนๆที่รู้จักกันดีในแวดวงการทำงาน รวมถึงคนใกล้ตัว เพราะเป้เองไม่เคยเกริ่นหรือมีวี่แวว ที่อยากจะทำศัลยกรรมมาก่อนเลย คือจะเฉยๆมาก ก็ ไม่ได้แอนตี้หรืออะไรเพียงแต่ ไม่ได้สนใจอยากทำมาก่อน
แต่จริงลึกๆแล้ว ตัวเองมีความ “ อยากสวย” ในใจมาตลอด แต่ไม่เคยบอกใครและก็คิดว่า มันคงไกลตัวเรา แล้วก็ยังไม่ได้นึกถึงการไปทำศัลยกรรม
คือทุกคนก็มักจะบอกว่าเฮ่ย หน้าเราโอเคนะ ไม่มีปัญหาอะไร (ดูจากรูปปัจจุบันก่อนทำ นะคะ) ……. แต่…เพื่อนๆคะ ที่จริงๆแล้ว เป้ มีปัญหานะคะ 5555!!!
**ปัญหาจากวัยค่ะ เพื่อนๆ**
ดูจากอายุ เป้อายุ 43 ปี แล้วนะคะ คือแม้เราดูแลผิวภายนอกได้ดีก็จริง แต่ด้วยปัญหาของวัย ความหย่อนคล้อยตามอายุจริง เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติมนุษย์ คะ เมื่อถึงเวลา ก็ต้องมีมาตามกาล
แล้วทีนี้ ยิ่งนานวันปัญหาก็พอกพูนตามวัยของเราเลยคะ ปัญหาของเป้ตอนนี้ คือ
• ชั้นตาตก (ทำให้ตาไม่เท่ากัน) ,
• ถุงใต้ตาที่เป็นกรรมพันธุ์มาตั้งแต่เด็ก
(ทำให้ตาดูเหนื่อยและล้าง่าย) ,
• ร่องลึกข้างแก้ม, (ทำให้เราดูแก่กว่าวัยคะ)
• ไขมันสะสมที่ข้างแก้ม, (เรียกเองว่าเหนียง)
• จมูกเบี้ยว โพรงจมูกบิด ทำให้เป็นหวัด และเป็นไซนัสได้ง่ายมาก และไม่มีดั้งด้วยคะ 555
(เคยลองจินตนาการถึงดั้งโด่งๆกะเค้าเหมือนกันอยากทำแต่ยังไม่กล้า)
และจุดสุดท้าย คือ* จุดนี้พีคสุดๆ
• อยากเอาไขมันสะสมออกจากร่างคะ
จุดนี้หลายคนไม่รู้แน่นอน หรือไม่เคยสังเกตุ คือเป้ เป็นคนตัวใหญ่นะ แต่แขน ขา จะเล็ก เหมือนไม่สมส่วน อันนี้เป็นมาแต่เด็ก ลำตัว/เอว/ต้นขา จะหนามาก แล้วระบบเผาผลาญเราไม่ดี ทำให้มีไขมันสะสมง่ายกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว
พออายุมากขึ้นส่งผลกับร่างกายคือเหนื่อยง่าย หอบ ก็พยายามออกกำลังกายคะ ช่วยได้ประมาณนึง มีลดลงบ้าง แต่ไขมันนั้นยังอยู่ค่า ไม่ลงง่ายคะ คือน้ำหนักลดแต่ไขมันไม่ลง
ทีนี้ถ้าเราจะเอาไขมันสะสมเหล่านี้ออก ก็คิดเองละคะว่าคงต้องเพิ่งเทคนิคทางการแพทย์เข้าช่วย
(ลึกๆในใจสำหรับผู้หญิงจะวัยไหน ก็ อยากสวย เสมอจริงมั้ยคะ )
เลยคิดว่าถ้าหากเราเองมีโอกาสที่จะทำศัลยกรรมได้จะเป็นยังไงนะ
จะทำได้มั้ย
ถ้าทำจะต้องทำอะไรบ้าง?
ทำเสร็จแล้วจะเป็นยังไง ?
คือคำถามในหัวมีเยอะมากคะ จะว่ากลัวก็แอบกลัวนิดๆ แต่เป้าหมายที่มีมันใหญ่กว่า คือ “เราอยากสวยสักครั้งในชีวิต” ถ้าทำได้อะนะ ^^
และนี้ก็ยังคงเป็นแค่ความคิดแน่ๆ คือเป้ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน จนได้มาเจอกับเพื่อนที่รู้จักกันเค้าทำงานในแวดวงศัลยกรรม (แบบอินไซด์เลย)
เราก็มีโอกาศได้คุยกันแล้วรู้ถึงความต้องการของเรา เพื่อนบอกว่าสิ่งที่เราคิดเป็นไปได้ ไม่ยากเลยด้วย
(พี่ไม่ต้องมานั้ง “ฝัน”อีกต่อไปแล้วนะ)
ทำเลย ง่ายมาก ปลอดภัยแน่นอน และก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดด้วย เพราะว่าเราสามารถเลือกทำกับโรงพยาบาล หรือคลินิกที่มีประสบการณ์ และมีความน่าเชื่อได้ เช็คข้อมูล โรงพยาบาลได้หใด ไม่ต้องกลัว
เพราะศัลยกรรมมีมานานแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ มีคนทำมาเยอะแล้ว
ก็เป็นช่วง ค้น & คุ้ยคะ หลังจากซุ่มเข้าดูข้อมูลอยู่นาน เป้ก็สนใจที่นี่เลยค่ะ โรงพยาบาลบาโนบากิค่ะ เป็นโรงพยาบาล
ด้านศัลยกรรมที่มีชื่อเสียง อันดับต้นๆในประเทศเกาหลีเลย มีมาตราฐาน มีเทคโนโลยี และมีความปลอดภัยสูง
น่าเชื่อถือมาก จัดเป็นโรงพยาบาลทำศัลยกรรมที่ดังมากที่เดียวคะ แล้วที่สำคัญคือ ที่รพ.บาโนบากิ เป็นโรงพยาบาลที่ร่วมทำศัลยกรรมให้กับรายการ Let Me In Thailand ของไทย และ Let Me In Korea ในเกาหลีด้วย แล้วยังมีอีกหลายรายการเลยค่ะ
รีวิวคนทำจริงๆก็เยอะมากๆ รวมทั้งดารา นักแสดง ในประเทศไทยหลายคน บินไปทำศัลยกรรมที่ รพ.บาโนบากิ ด้วย คือดูข้อมูลแล้ว ก็อยากทำมากๆเลยคะ
อีกอย่าง หลังจากดูรีวิวแล้ว ศัลยกรรมก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยิ่งดูในรายการ Let Me In ทั้งของไทยและเกาหลีแล้ว บอกได้เลยคะ ว่าศัลยกรรม ไม่ใช่แค่ ช่วยให้คนเราสวยหรือหล่อขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการเปลี่ยนชีวิตของคน คนนึงไปตลอดกาล จริงๆ
เป้เอง ก็เปลี่ยนทัศนคติจากเดิมไปเลยค่ะ เพราะเคยคิดว่าศัลยกรรมคือทำให้คนที่อยากสวยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จริงๆไม่ใช่เลย ศัลยกรรมสามารถมาช่วยแก้ปัญหาในชีวิตเราได้ ทำให้การใช้ชีวิตของบางคนที่มีร่างกายไม่สมบรูณ์ หรือจากการเกิดอุบัติเหตุ การศัลยกรรมก็ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นได้
หลายคนได้ใช้ชีวิตได้ปกติมาก คือไม่ว่าจะด้านไหน ศัลยกรรมคือการช่วยเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นได้จริงๆคะ
จุดนี้อินมากแล้ว ตัดสินใจเลย อยากทำ ก็ลองติดต่อปรึกษากับโรงพยาบาล อยากรู้งบประมาณ และความเป็นไปได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลบาโนบากิก็น่ารักมากค่ะ มีล่ามคนไทยพูดคุย ปรึกษา โต้ตอบเป็นภาษาไทยเลย ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสาร คุยกันอยู่นานค่ะ มีส่งรูปเป้ไปให้ดูก่อนแล้วประเมินงบประมาณ พอจะทราบรายละเอียดคร่าวๆ แล้ว ทาง รพ.เลยนัดให้เราบินไปเกาหลีเพื่อพบที่ปรึกษาและพบคุณหมอ เพื่อดูเคสจริงกันอีกรอบก่อนผ่าตัด
คือตอนนี้ คิดในใจค่ะ ถ้าทำได้ จะทำเลย ไม่อยากรอเวลาให้ผ่านไป คือ “อยากสวยสักครั้งในชีวิต” คีย์เวิร์ด นี้พุดขึ้นมาในใจชัดเจนมาก
V
และก็ตัดสินใจทำที่นี่ค่ะ !
เดินทางมาถึงเกาหลีก่อนผ่าตัด 3วัน มาเตรียมตัวก่อนเข้าปรึกษาคุณหมอ ที่รพ. บาโนบากิ พอมาถึงก่อนเราก็เดินชิวค่ะเที่ยวเก็บเกี่ยวบรรยากาศ สบายๆ เอาจริงๆช่วงนี้ยังไม่ตื่นเต็นเท่าไหร่คะ ยังสบายๆอยู่ ไปเดินเที่ยว แถวกังนัม สนุกสนานเลยคะ
และแล้ววันนัดปรึกษาก็มาถึงค่าา เดินทางไปถึงก็เจอน้องที่เป็นล่ามคนไทยมารับ ทักท้ายกันแนะนำข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับการเตรียมตัวศัลยกรรม พาไปถ่ายรูป ทำประวัติคะ ช่วงนี้แหละคะเริ่มตื่นเต้นแล้ว 555 เขินคุณพยาบาลด้วยคะ แบบว่าต้องถ่ายทุกมุมเลย ><
ก่อนจะพบคุณหมอ จะมีการพบกับเจ้าหน้าที่ Consult กันก่อนนะคะเพื่อคุยรายละเอียดการทำว่าเราจะทำอะไรบ้าง ควรทำแบบไหน แล้ววิธีการทำเป็นอย่างไร (ข้อมูลละเอียดมากคะ)
ถึงเวลาพบคุณหมอ ก็แบบสบายๆเลยคะน้องๆที่เป็นล่ามพูดไทยแปลให้เรา สื่อสารกับคุณหมอแบบคำต่อคำเลยเปะมากคะขอบอก บรรยากาศเป็นกันเอง คุณหมอน่ารักมากคะ จะถามเราว่า เราต้องการอยากทำแบบไหน หรือกังวลตรงจุดไหนมากที่สุด ถ้าแก้ไขแล้วเราจะแฮปปี้มากที่สุด โอ้โห้ ตรงเป้าเลยคะ 5 จุดที่คิดไว้ เราก็บอกคุณหมอไป คุณหมอจะแนะนำสิ่งที่เหมาะกับเรา ว่าจะทำแบบไหน จะแก้ไขแต่ละจุดอย่างไร
รอบแรก เราจะทำทั้งหมด 4 จุดก่อนคะ
จุดแรก 1.
ยกหน้าผาก เพื่อทำให้ชั้นตาชัดขึ้น แทนการทำตา2 ชั้นใหม่ (เดิมเป้อยากทำตาใหม่) ซึ้งคุณหมอแนะนำว่าชั้นตาเดิมยังดี เพียงแต่หนังตาเราตก ลงช่วงว่างระหว่างคิวและตาใกล้กันมาก หากเราปรับเป้นการยก คิ้วขึ้น จะทำให้ ชั้นตาเดิมเราชัด โดยไม่ต้องกรัดใหม่ และให้ช่งงหน้าผากเราดูตึงขึ้นเหมือนตอนเราวัยรุ่น (ว้าวตรงนี้ 555)
จุดที่ 2.
ขจัดถุงใต้ตา โดยการเกลี่ยไขมันใต้ตาใหม่ ใช้การเย็บใต้ตาล่าง จะไม่เห็นรอยแผล ทำให้ไขมันไม่เป็นถุง ทำหน้าดูไม่โทรมง่าย
จุดที่ 3.
การลดไขมันที่แก้ม แต่เดิมเป้คิดว่าตรงนี้คือ ผิวหย่อนคล้อย หรือเรียกเองว่าเหนียงค่ะ เพราะจะเป็นเนื้อเหลือๆ ข้างแก้มใกล้กรามแล้วผิวเริ่มเป็นร่องๆตรงนี้ จึงอยาก เก็บหรือกระชับขึ้น ซึ้งคุณหมอบอกว่าผิวเรายังไม่หย่อนคล้อย แต่เป็นไขมัน สามารถเอาออกได้ ร่องผิวก็จะหายไปไม่ต้องยกอะไรค่ะ
จุดที่ 4.
ดูดไขมันทั้งตัว จุดนี้พีคสุดคะ ตรงนี้คุณหมอจะถามเลยว่าจุดตรงไหนที่เรากังวลสุด ถ้าหายไปแล้วเราแฮปปี้ เอาจริงๆ ทุกจุดเลยคะ คือเป้เป็นคนแขนขาเล็ก แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเราตัวใหญ่ เวลาใส่เสื้อผ้าต้องเลือกพลางดีๆ ไม่งั้นจะไม่สวย ทำให้เราไม่มั่นใจ คุณหมอทราบว่าเราพอออกกำลังกายมาบ้าง เพราขาเรามีกล้ามเนื้อพอควร ตรงนี้คุณหมอก็เริ่มมาร์คๆจุด ในชาร์ทไว้คะว่าตรงไหนบ้าง พรุ่งก่อนเข้าห้องผ่าตัด มามาร์ดจริงที่ตัวอีกที
จาก 4 จุดที่ว่ามานี่ ผ่าตัดพรุ้งนี้พร้อมกันนะคะ คุณหมอให้กลับไปเตรียมตัว อดน้ำอาหาร หลังเที่ยงคืนวันที่ 8 เตรียมตัวผ่าตัดวันที่ 9 เลย ที่ได้ผ่าตัดเลย เพราะเป้ได้มีการปรึกษา กับทาง รพ. บาโนบากิ ไว้ก่อนแล้ว เลยได้บุคคิวไว้ พอมาปรึกษาปุ๊ปก็ มีคิวทำได้เลยคะ มาเอาใจช่วยกันนะคะ พรุ้งนี้ผ่าตัดใหญ่ ครั้งแรกของเป้ ครั้งแรกของการศัลยกรรม ที่ยิ่งใหญ่ แลังการสำหรับตัวเองมาก จะไหวมั้ย จะเป็นยังไง เอาใจช่วยด้วยนะคะ
หลังผ่าตัดวันแรกวันที่ 0 และ 1
หลังผ่าตัดพักฟื้นที่รพ. บาโนบากิชั้น 6 เป็นห้องพักส่วนตัวค่ะ
หลังผ่าตัดหลับดีค่ะจะมีช่วงที่ตื่นเต้น 2-3 ช.ม. ตื่นทีเพราะหิวน้ำและเมื่อยตัว แต่ไม่ยังรู้สึกเจ็บนะคะออกแนวระบมตึงๆตามตัวมากกว่าเพราะเราดูดไขมันทั้งตัวส่วนบริเวณที่หน้านี่ปกติดมากค่ะไม่รู้สึกเจ็บเลยช่วงเช้าประมาณ 9.00 โมงได้นะคะ คุณหมอที่ผ่าตัดให้เจ้ามาตรวจถามอาการ แต่เช้าเลย (ซึ่งถือว่าคุณหมอมาเช้ามากค่ะเพราะปกติโรงพยาบาลจะเปิดทำงานตอน 10.00 โมงซึ่งเป็นเวลาทำงานปกติของโรงพยาบาลที่เกาหลี)
มาพร้อมทีมพยาบาลซักถามอาการและดูว่าเราเป็นยังไงบ้างได้ปกติมั้ยปวดหัวมั้ยหนาวมั้ยจากนั้นก็ให้ถอดผ้าพันตัวและแขนขาออกใส่ชุดคลุมคนไข้ของโรงพยาบาล (ทั้งคืนนั้นเป้ ใส่ชุดผันอนุรักษ์มัมมี่ทั้งคืนนะคะถ้าถามว่าจะเก็บไว้ที่ไหน
คุณหมดเช็คเงื่อนไขต่างๆจากที่เราทำการซ่อมแซมเมื่อวานนี้
1. ดดดแฉทั้งตัว
และที่ใบหน้าจะมี 2-3 จุดก็คือ
มีรอยไหมยกกระชับกระดูก
3. เกกาดาวเทียมเดินทางใต้ตา
4. ดูดมัลลิกาใต้
5. การฉีดที่ดีที่คิวร่องแก้มใต้ค้างข้างแก้ม
โอ้โห้ววหลายรายการนะคะเนี้ย 55 บอกหน่อยได้ไหมว่ารอบนี้ใหญ่ 9 ชม. เงินบริจาคและสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ทุกคนทำได้พร้อมกันในครั้งเดียวนะคะ
จนจบแล้วบอกว่าอาการเราค้อนข้างดีตอนผ่าตัดก็เป็นไปด้วยดีหลังผ่าตัดร่่างลางก่น้า
วันนี้วันแรกหลังการผ่าตัดคุณหมอย่ำ
ส่วนการเดินให้เราพยายามลุกเดินอย่านอนนานค่อยๆเดินถ้าเหนื่อยหรือหน้ามืดให้หยุดคือคนที่ดูดไขมันทั้งตัวควรเคลื่อนไหวเดินเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีและลดการบวมได้ไวเพราะการดูดไขมันทั้งตัวหลังผ่าตัด ช่วงแรก ๆ 3-4 วันจะบวมมากหน่อยการระบอบตามตัวการเดินจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและลดการระเบิดได้เร็วขึ้น
ช่วงวันนี้ตัวจะบวมมาก ๆ มีน้ำไหลออกจากรอยแผลบางจุดซึ่งอันนี้ปกตินะคะทางทีมพยาบาลบอกว่าปกติสำหรับคนดูดไขมันเพราะการดูดคือวิธีการนำน้ำเข้าไปในร่างกายเราแล้วดูดออกมาพร้อมไขมัน ประมาณนี้พอหลังจากผ่าตัดเสร็จบางคนจะมีน้ำไหลจากแผลมากน้อยแล้วแต่คนค่ะของเป้น่าจะมากหน่อย ๆ 555 ใช้ผ้าพันแผลไว้แล้วเดินต่อคะจะบอกว่าแผลที่น้ำไหลออกมาไม่เจ็บนะคะตัวเ าจะบวมปกติเลยตามสเต็ปทานข้าวได้เข้าห้องน้ำเองได้ต้อนลุกนั่งนี่ต้องระวังหน่อยนะคะวันนี้ยังมีอาการมึนยาจากการผ่าตัดอยู่จะหน้ามืดได้ง่ายคะ
วันนี้ทั้งสองก็เดินไปเดินมาพร้อมกัน
วันนี้เป้สบายค่ะไม่ปวดหัวไม่ผ่านฉลุยคะ ^^
ช่วงเย็นมีกำลังใจมาเยี่ยมเพียบเลยค่ารวมทั้งน้องล่ามที่พูดเกาหลีได้มาถามไถ่อาการแล้วบอกว่าคุณหมอบอกอาการเราดีมากฟื้นตัวดีให้เราเตรียมตัวกลับบ้านได้เลยพรุ่งนี้คืนนี้ให้ย้ายไปพักที่เกสเฮาส์ ของโรงพยาบาล (ว้าวโรงพยาบาลมีเกสเฮาส์ด้วยอะเก๋มาก) แต่ที่นี่เป็นเกสเฮาส์เฉพาะคนไขผู้หญิงเท่านั้นนะคะจะไม่ให้ผู้ชายเข้าดั้งนั้นที่นี่จะปลอดภัยมากอ ยู่ติดกับโรงพยาบาลเลยคะพอไปถึงโอโห้ดูดีค้อนข้างหรูเลยค่ะนอนสบายอุปกรณ์พร้อมเหมือนโรงแรมเลยคะเป้พักที่นี่ 1 คืนพรุ้งนี้กลับบ้านเอ้ยกลับโรงแรมเราเองคะไว้มาเล่าให้ฟัง ต่อนะคะว่าหลังผ่าตัดวันที่ 2 จะเป็นยังไง ^^
☀
หลังผ่าตัดวันที่สองวันที่ 2
ขออัพเดทอาการกันต่อไปนะคะเพื่อน ๆ หลายคนอยากรู้แล้วรู้ไหมว่าวันที่ 2 จะเป็นยังไงนะ
วันนี้นอนได้นานขึ้นค่ะได้มาพักที่เกสเฮาส์ของรพ. บาโนบากิหลับสบายมากหลังจากตื่นมาก็ลองขยับตัวแล้วลงเดินตามที่คุณหมอแนะนำ (คนดูดไขมันต้องหมั่นเดินบ่อยๆนะคะ)
รู้สึกขยับตัวได้มากขึ้นกว่าวันแรก แต่ก้ยังมีอาการเจ็บอยู่บ้าง
แล้ววันนี้รู้สึกจะมีอาการปวดหัวนิดหน่อยจากวันแรกที่ไม่รู้สึกอะไรเลยน่าจะหมดฤทธิ์ยาแล้วก็เลยเป็นการปวดหัวปกติสำหรับคนที่ยกหน้าผาก (ของเป้รอยไหมยึดช่วงแรกจะมีเหล็กอ่อนยึดอยู่เดี๋ยว จะเอาออกก็จะเหลือ แต่ไหมละลาย) คุณหมอบอกไว้แล้วว่าจะมีอาการปวดหัวนิดหน่อยในช่วงแรกเป็นปกติให้ทานยาตามเวลาจะดีขึ้นที่จริงตรงนี้ปวดเบากว่าที่คิดไว้เยอะเพราะ ทบไม่รู้สึกเลยผ่าตัดครั้งนี้ที่ใบหน้าที่คุณหมอทำหลายอย่าง
แต่ไม่รู้สึกเจ็บเลย
รู้เลยว่าคุณหมอเก่งและชำนาญมาก ๆ
ส่วนเรื่องการดูดฝุ่นจะมีผลต่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีอยู่
ส่วนที่ตา (ทำการเกลี่ยไขมันใต้ตาเย็บในเปลือกตาล่าง) วันนี้รู้สึกมีขี้ตาเยอะกว่าเมื่อวาน แต่พอหยอดตาแล้วขี้ตาหลุดง่ายเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น (ยาเค้าสุดยอดจริงๆ)
และวันนี้ปัสสาวะได้มากขึ้นกว่ามือวานเยอะค่ะ 55 ทำไมต้องบอกเรื่องนี้เป้ว่ามันก็สำคัญนะเพราะดูดไขมันมันก็เกี่ยวกับระบบข้างในเราเนอะถ้าร่างกายเรายังทำหน้าที่ได้ดีแสดงว่าการผ่าตัดดี มากไม่มีผลข้างเคียงไม่ได้ทานอะไรหนักคะช่วงนี้ทาน แต่โจ๊กข้าวต้มล้วนๆวันนี้จะออกจากเกสเฮาส์แล้วกลับโรงแรมที่พักเรากันคะได้ยามาพร้อมเดินได้สบายค่าอาจจะเดินช้า ก่อนหน้านี้นะคะเพราะยังคงระบำอยู่เป้
กลับมาที่พักก็เดินไปรอบ ๆ โรงแรมเอาเดินใกล้ ๆ แต่เดินถี่หน่อย
อาการวันที่ 3 กันจะเป็นยังไงบ้างค่อนข้างรอติดตามนะคะ
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 3
วันนี้ตื่นมามีอาการปวดหัวตึบ ๆ พอประมาณไม่มากพอทนไหวยังไม่ต้องทานยาแก้ปวด แต่มีอาการระคายคอมากไอเกือบตลอดเวลาพอไอมากก็อาเจียน (มี แต่น้ำ ๆ ออกมา) พอนอนก็ จะมีอาการเจ็บป่วยคอเร็ว
การเดินรู้สึกเดินได้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานค่ะ แต่รู้สึกตึงๆที่ขามาก ๆ ปวดน้อยลงทำความสะอาดล้างแผลที่หัว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สระผมเช็ดตัวเอาค่ะ (ยังชุดเดิมอยู่เลย> <) เพราะกลัว โดนกำจัด
วันนี้ปวดหัวหัวน่าจะมาจากแม็กที่ดึงหัว
มีฝึกเดินขึ้นบันไดค่ะขึ้นลง 3 ชั้นไปร้านสะดวกซื้อได้ค่าแล้ว
ช่วงเย็นนี้รู้สึกว่าใต้ตาซ้ายบวมตุ้มๆขึ้นมา แต่ไม่เจ็บนะคะ
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 4
รู้สึกเดินได้คล่องมากขึ้น แต่ยังมีแรงกระแทกน้อยลง แต่ยังมีจุดปวดหลังแขนและขาที่ตึงมา
ส่วนใต้ตาที่ปวดจากเมื่อวานนี้ก็ลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีบวม ๆ อยู่
ส่วนตาวันนี้รู้สึกดีมาก ๆ
มีอาการปวดตุ้ๆแน่นๆที่ตรงรอยเย็บลวดแม็กที่หัว 6
วันนี้ยังใส่ชุดรัดรูปที่ได้มาจากโรงพยาบาลไม่ได้ (ชุดรัดรูปสำหรับคนที่ดูดไขมัน) เพราะตัวยังบวมอยู่ไม่เคยรู้สึกตัวบวมแน่นอย่างนี้มาก่อนหลาย ๆ คนบอกว่าแบบนี้ปกติมากเป้ค้อนข้าง ฟื้นตัวไวด้วยซ้ำเพราะเดินเก่งมาก 55 อันนี้ทำตามคุณหมอที่แนะนำคะว่างเป็นเดินจำได้ว่าเคสดูดไขมันทั้งแบบตัวเราจะนอนเฉยๆไม่ดีต้องขยันเดินเป้ก็พยายามเดินตลอดแม้บางทีจะปวดตึง แต่เราก็พยายามเพราะในช่วงแรกเราต้องช่วยให้ร่างกายเราได้เร็วขึ้นที่สุด
วันที่ 4 หลังผ่าตัดความตึงปวดลดลงเยอะเดินได้มากขึ้นขึ้นลงบันได้ 3 ชั้นออกไปช็อปปิ้งได้แล้วนะคะวันนี้ได้ไปเดินแถวโรงแรมใกล้ ๆ เป็นแหล่งช็อปปิ้งของกังนัมนี่แหละพอกลับมา ปุ๊ปพานันง้งรู้สึกเหมือนไม่ว่าตอนไหน 555 555 ตอนเดินแค่อึดอัด แต่ตอนนี้เมื่อยยยยยยยยยยยยยยยยย
ช่วงเย็นมาสังเกตุคะว่าตรงไหนเราแย่งหน่อยเอ๋อ ซึ่งจะมีทีมล่ามคนไทยที่ช่วยดูแลเราอยู่ค่อยแนะนำสอบถามอาการหลังผ่าตัดซึ่งทางล่ามบอกว่าเป็นอาการบวมปกติเป็นอาการบวมไล่ลงมาเรื่อยจากช่วงบนลงมาที่จริงช่วงบนเป้บวมน้อยมากที่ศรีษะไม่
บวมเลยคุณหมอไม่ต้องพันใจเลยค่ะปกติคนอื่น ๆ จะต้องพันกันหายบวมอยู่ 3 วัน แต่ของเป้ไม่ต้องา
ให้ดูแลเรื่องความสะอาดเช้าเย็นพอค่ะ
วันนี้ก็เหนื่อยเพลีย ๆ เพราะเดินเยอะนอนพักผ่อนก่อนนะคะแล้วจะมีการอัพเดทอาการกันต่อนะจ๊ะ
☀
หลังการผ่าตัดวันที่ 8 (หลังการผ่าตัด 2 วัน)วันนี้ออกเดินทางโรงแรมใหม่ แต่เช้าเลยค่ะค่ะโดยรวมดีขึน
ตอนที่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยตอนนี้จะลองใส่ชุดแน่นกระชับแล้ว ^^
ทางรพ. แนะนำให้ใส่วันละ 8 ชมทุกวันประมาณ 2 เดือนค่ะเพื่อกระชับผิวหลังจากดูดไขมัน ถ้าจะให้รูปร่างเข้าที่จริงๆก็ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนระเบียนค่ะ เพิ่งลองใส่แรกเราก็กลัวนะว่าได้จะใส่ได้มั้ย ดูชุดมันเล็กจัง 555 ด้วยความรู้สึกตัวเราก็ยังเจ็บอยู่บ้าง แต่พอลองใส่เฮ้ย .. !! ใส่ได้อะเยี่ยมอะฮอะ 555 555
ใส่ได้พอดีเป๊ะพอใส่ชุดแล้วรู้สึกตัวเราแน่น ๆ เคลื่อนไหวได้ช้าลงกว่าเดิมอาจจะเพราะยังไม่ชินกันชุดเนื่ิองจากชุดเป็นผ้าตาข่ายแบบเนื้อแบบช่วยผยุงรูปร่างเราทั้งหมดเลยค่อนข้างกระชับมาก
เป้คิดว่าจะต้องเคลื่อนไหวแบบไหนกันนะ
สำหรับคนที่สนใจเรื่องการเดินเป็นเรื่องสำคัญมาก
หลังจากเดินกลับห้องมาก็ต้องล้างแผลจมูกต่อค่าสำหรับคนทำจมูกเป็นเรื่องจำเป็นมากเช่นเดียวกันนะคะ
ถ้าเราดูแลดีตั้งแต่ตอนนี้จมูกเราก็จะหายไวสวยเร็วไม่อักเสบนะคะคุณหมอย้ำมา
ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศที่เกาหลีกำลังเย็นสบายดี เราก็ชิวมากจริงๆ หัวเรื่อง: การที่เรามาทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลความที่มืออาชีพทำให้เราวางใจขณะนี้กับทีมที่ช่วยดูแลเราให้คำปรึกษาได้ตลอด มีทีมล่ามของคุณคนไทย English ที่เราสามารถคุยปรึกษาได้ตลอดเวลาที่อยู่ที่เกาหลีเลยคะปลื้มและอุ่นใจมากคะ
ตอนนี้เป้พักโรงแรมที่อยู่ใกล้รพ. บาคาบาบาเลยเดินทางสะดวกมากขึ้น
วันจันทร์นี้ทางรพ. นัดมาฉายแสงลดอาการช้ำของ หน้าพร้อมกับนัดเช็คแผลอีกรอบด้วยอยากให้ถึงวันจันทร์ไว ๆ (วันนี้วันศุกร์) จะได้ไปลดบวมและแกะเฝือก จมูกแล้วอยากเห็นจมูกใหม่ เร็ว ๆ 55 รอลุ้นคะว่าจะเป็นยังไงก็ตาม
หลังผ่าตัดวันที่ 9 (หลังผ่าตัดรำ 3 วัน)
ตื่นเช้ามาด้วยความสบายใจกว่าวันอื่น ๆ ค่ะ
ยังเจ็บ ๆ ตึงๆตามตัว แต่รู้สึก เคลื่อนไหวคล่องมากขึ้นโดยปกติจะมีอาการตึงตามเอวต้นแขนสะโพกและต้นขามาก แต่วันนี้อาการดีมากกว่าทุกวันลองสังเกตุอาการของเราคือดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันจริงๆ ยิ่งเดินเร็วเท่าไหร่นอนหลับพักผ่อนมาก ๆ
ในส่วนใบหน้าวันนี้วันที่ 3 ของการทำจมูกค่ายังมีอาการ บวมอยู่ แต่เป้บวมค้อนข้างน้อยส่วนตรงจมูกยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ค่ะ ( เวลากินอะไรก็ยังอ้าปากได้ ไม่เต็มที่เท่าไหร่นะต้องทานโจ๊ก หรือข้าวต้มที่พอจะได้ซะดีนะคะ) ไม่เจ็บเลยรู้สึกเจ็บ แต่แปะรั้งเพราะใส่เฝือกวลาา
วันนี้มีแพทหาที่เดิน (เดินมาก ๆ ช่วยลดอาการบวมตามที่คุณหมอแนะนำนะ ^^) ก็ดี ว่าเราจะไปเที่ยวกันที่ไหน
กังนัมสแควร์ค่ะ ขณะนี้ไม่ไกลจากเนชั่โรงแรมฮอลิที่พักนั้งรถไฟฟ้าใต้ดินไปสถานนีเดียวเท่านั้นก็เลยตั้งใจว่าได้เดี๋ยวเราจะออกไปช่วงเที่ยงๆเนี่ยคุณละคะขายังตึงๆเวลาขึ้นลงบันได แต่สบายมากค่ะค่อยๆ ลง 3 ชั้นกว่า ๆ (ขาเริ่มแข็งมาก) เพิ่งขึ้นบันใดมาก่อน
แต่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดที่สุดเราก็ลงมาถึงสถานนีจนได้คะ แต่ก็ไม่รู้ว่าได้ซื้อตั๋วยังยังไงดีครั้งแรก ๆ ซื้อไม่เป็นคะรบกวนของคุณคนแถวนั้นเจอคุณน้องผู้ชายน่าจะยังเป็นนักเรียนเป็นขณะนี้การธนาคารวันรุ่นเชียวมาช่วยหยอดเหรียญให้ ได้บัตรหนักมาแล้วค่ะลุยเลยคะแค่ 1 สถานที่ถึงค่าแล้ว
พอถึงบุ๊ปโอโห้ลืมเรื่องขาตึงเพราะขึ้นบันไดเมื่อกี้ไปเลยค่าที่ใต้ดินสถานีคัทงนัมมีร้านช๊อปปิ้งเยอะเราไม่คุณต้องขึ้นไปข้างบนสถานนีเลยค่ะจากเนชั่ที่ขาตึงๆก็เดินยาวเลยค่ะ เหมือนเปิดโลกใหม่ 55 สู้ขาดใจ
เดินซื้อของกินข้าวซ้อมมือในการเดินเพิ่มไม่รู้ตัวเลยค่ะสรุปเดินกันไปเกิน 2 ชม กลับถึงโรงแรมเพลียมากหลับเลยค่ะ
แม้ว่าเราจะเดินได้คล่องขึ้น แต่ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นตัวเหมือนปกตินะคะเดินนานมากไปจะเพลียง่ายแนะนำว่าให้เดิน แต่พอดีแล้วต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ทานยาตามกำหนดเป๊ะ ๆ อันนี้เป้เคร่งครัดมากทุกอย่างตามที่ คุณหมอแนะนำเลยคะ
ทุกๆวันเป้จะอัพเดทอาการกับทางรพตลอดว่าเรามีอาการมากไปก็จะมีทีมของทางรพ. ช่วยแนะนำเวลาเรามีข้อสงสัยหรือคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการเก็บเงินเรารู้สึกดีมาก ๆ คะ ^^
วันนี้เดินนานกว่าทุกวันนอนหลับและหลับได้นานไว้แล้วพรุ่งนี้เรามาอัพเดทข่าวกันใหม่นะคะ
😍😍😍
หลังผ่าตัดวันที่ 10 (เพลงวันที่ 4)
วันนี้มาสนุกด้วยความตื่นเต้นมากเพราะเราได้รับความนิยม
10 วันของการเก็บกู้ครั้งแรก
อาการสำหรับใบหน้าวันนี้บวมประมาณเดิม ๆ คะ แต่ความรู้สึกตึงน้อยลงกว่าเมื่อวานหน่อยแล้วก็จะมีเขียวนิด ๆ ตรงใต้ตาใกล้โคนดั้ง (ตรงนี้เป็นอาการปกติของคนที่ทำจมูก) แต่ไม่มากนะคะ จะหน้าตา แต่ถ้าทาครีมทาแป้งก็ดูไม่ออกนะคะมีน้อยมาก ๆ แล้วไม่ได้รุ้สึกเจ็บเลย
ส่วนอาการที่ตัวที่ดูดไขมันก็บวมลงลงเรื่อย ๆ คะจะสังเกตุว่าทุกวันที่เป้ตื่นมาอาการบวมการตึงจะลดลงตลอดคือทำให้เราขยับตัวดีขึ้นคล่องขึ้นเป็นไปตามที่คุณหมอบอกทุก อย่างเลยคะเดินออกกำลังพักผ่อนดีทานยาตามกำหนดพอเราดูแลตัวเองดีการฟื้นฟูร่างกายก็ดีตามด้วยคะวันนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะไปเดินเที่ยว แต่ปรากฏฟ้าไม่เป็นใจเท่าไหร่นะคะวันนี้ที่เกาหลีฝ ทั้งวันเลยคะคะ
ก็เดินเล่นในห้อนหน้าห้องเอาคะช่วยออกกำลังกายยืดเส้นไว้พรุ้งนี้คะเป้มีนัดกับโรงพยาบาลเพื่อไปล้างแผลฉายแสงลดบวมและตัดไหมที่จมูกนะคะเพื่อน ๆ รออัพเดทกันได้เลยจ้า
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 11 (นัดวันที่ 5) / นัดเช็คลดลด (ถอดเฝือกเมนออก)
วันนี้มีนัดลดบวมรอบ 2 ที่รพ. ลดการบวมได้แล้ววันนี้
หลังจากผ่านไป 5 วันแล้วก็เอาออกมาได้ด้วยนะคะ
พอไปถึงทางเจ้าหน้าที่ก็ให้เรานอนที่เตียงแล้วค่อยๆแกะเฝือกออก (มือเบามากกกก) อยากขอกระจกดูเลย แต่เอาออกปุ๊ปนี่ยังไม่ได้ดูค่าาเราต้องล้างแผลเช็ดหน้าและนวดเอารอยเมจิกที่คุณ หมอมาร์คไว้ออกคะตอนนี้บอกเลยฟินมากกกกรู้สึกสบายที่สุด
พอเสร็จปุ๊ปทีนี้เราก็จะได้เห็นจมูกแล้วนะคะ (ขอดูกระจกทันที) จมูกชั้นสวยยย ^^ ดูโด่งขึ้น แต่โด่งแบบสโลบสวยธรรมชาตินี่ขนาดยังบวม ๆ อยู่นะ แต่ดูเข้ากับหน้า เรามากเลยนะ (พี่สาวไปด้วยกันก็ทักว่าพี่มันเข้ากับหน้าพี่มาก ๆ ) ดีใจสุด ๆ
หลังนวดหน้าแล้วเรายังไม่จบนะคะน้องล่ามที่ไปกับเราพาไปฉายแสงลดบวมอีกรอบที่ตึกหลักชั้น 6 เพื่อให้หน้าเราลดบวมลงไปอีกรู้สึกหน้ายุบหายบวมแบบเห็นได้ค้อนข้างชัดเลย
วันนี้เบาสบายหน้ามากเลยคะกลับบ้านเดินออกกำลังกายช่วยลดอาการบวมได้ดีกว่าค่ะวันนีต่
แล้วพรุ้งนี้เรามีนัดเอาชุดรัดรูปเพิ่มคะเป็นชุดใหม่ที่จะมีขนาดเล็กกว่าชุดปัจจุบันที่ใส่อยู่เอาไว้ใส่ตอนกลับเมืองไทยกว่าจะใส่ได้ก็น่าจะอีก 1 เดือนค่ะคุณหมอบอกว่าตัวเรา จะเล็กลงกว่านี้อีกถ้าเราคุมอาหารและออกกำลังกายดีเฟริมหุ่น S สบาย ๆ เลยค่ะมาเอาใจช่วยไปด้
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 12 (เพลงวันที่ 6)
ถอดเฝือกเมนแล้วจ้า
วันนี้อีกแล้วจะได้ล้างหน้าเสียหลายวันหลังการผ่าตัดเสริมก็จะเช็ดเอาเอา
ในส่วนของจมูกเราต้องดูแลเรื่องความสะอาดต่อนะคะจะมียาล้างข้างในโพรงจมูกเราชื่อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ขวดสีเขียวน้ำใส ๆ ใช้คอตตอนบัดชุบให้ชุ่มพอประมาณเช็ดข้างในรูจมูกจะช่วยละลายสิ่งที่เกาะใน จมูกเราให้ออกมาอย่างอ่อนโยนเป้ชอบมากกกกกเพราะไม่แสบไม่มีกลิ่นฉุนและที่สำคัญละลายดีมากกกกก็ช่วงแรก ๆ อะเราจะมีน้ำหมูกมีแผลผ่าตัดข้างในด้วยก็ต้องทำให้สะอาดๆจะได้ ห ยไว ๆ แผลสวย ๆ นะคะ (คุณพยาบาลที่บาโนบากิย้ำมาต้องเชื่อนะคะ ^^)
ได้ล้างหน้าก็สดชื่นมาก ๆ เลยค่ะหลังล้างหน้าฟินแล้วก็อยากจะลองใหม่ ๆ แล้วสวยจนแล้ว ทำไม่ต้งมีชุด 2 สงสัยใช่มั้ยคะคือหลังจากที่เราผ่าตัดดูไขมันทั้งตัวแล้วหลังจากผ่าตัดเราจะต้องใสชุดรัดรูปแบบเต็มตัวชุดก็จะมี 2 ชิ้นค่ะคือเสื้อและกางเกงซึ่งชุดแรกที่เราได้นั้ จะวัดขนาดตัวเราก่อนผ่าตัดไว้และตัดเป็นชุดรัดรูปในขนาดที่เหมาะสมกับตัวเราพอหลังผ่าตัดเราจะบวมหน่อย ๆ พอการบวมลดเราก็ใสชุดแรกที่เตรียมได้มาค่ะโดยชุดนี้จะใส่วันละ 8 ชม ตลอด 2 เดือนค่ะ … และมาถึงสาเหตุที่ต้องมีชุดที่ 2 เพราะเมื่อเราใส่ชุดแรกแบบอยู่ตัวแล้วสัดส่วนเราจะเริ่มเล็กลงค่าและชุดที่ 2 นี้จะมีขนาดที่เล็กกว่าชุดแรกเพื่อช่วยให้ สัดส่วนเรากระชับมายิ่งขึ้นค่า
พูดถึงชุดเราก็มาพูดอัพเดทอาการที่ตัวกันหน่อยวันนี้อาการทั่วไปของก็ยังคงมีอาการตึงๆปกติ แต่ดีขึ้นกว่าเมื่อวานศรีษะที่ร้อยไหมแผลแห้งสบายไม่เจ็บเลยรอตัดไหมอาทิตย์หน้าวันนี้กะว่า จะเดินไปรพ. เพื่อไปเอาชุดค่ะได้ออกกำลังกายด้วยค่า
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 13 (เพลงวันที่ 7)
วันนี้เป็นวันที่ทำจมูกมาครบ 7 วันแล้วค่าไม่ค่อยบวมและไม่ช้ำเลยค่ะเว้นรอยเย็บ (ที่ตัดปีกจมูก) ยังแดงๆอยู่เรายังต้องดูแลล้างข้างในโพรงจมูกให้สะอาดมาก ๆ นะคะเพื่อแผลเรา จะได้หายไปส่วนที่เจ็บกว่าที่นี่คือที่ที่เราเอากระดูก
แต่มันก็ไม่เจ็บมากนะถ้าไม่โดนก็จะเจ็บเล็กน้อย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เพราะเป้มีเอนโดไทนด์หน้าผาก (ยกกระชับหน้าผาก) เติมไขมันที่หน้า, เกลี่ยไขมันใต้ตา, สลายไขมันกรอบหน้าในส่วนหน้านี้คุณหมอก็แนะนำให้นอนยกหมอนสูงหน่อยจะดีคะอย่างเอนโดไท นด์นี่จะทำให้เรารู้สึกแน่นหนาหัวนอนสูงแล้วสบายขึ้นเยอะ
มาอัพเดทที่ตัวบางดีกว่าค่ะวันนี้ครบ 13 หลังดูดไขมันทั้งตัวมาเกือบจะ 2 อาทิตย์แล้วใส่ชุดรัดรูปมาได้ 1 อาทิตย์พอดีค่าต้องบอกว่าการดูดไขมันทั้งตัวคือรวมแขนขาเราด้วยนะคะดังนั้นตัว เราจะตึงๆไปหมดทั้งตัวยิ่งพอใส่ชุดรัดรูปนี้ให้อารมณ์เหมือนตัวเองเป็นโรบ็อตนิด ๆ ด้วยความที่เพิ่งจะ 2 อาทิตย์เองอะโน๊ะก็ยังตึงๆคืออาการตึงนี้มาจากข้างในเลยผิวข้างนอก จ มีรอยช้ำมากน้อยแล้วแต่บุคคลนะคะ (แต่ละคนจะเกิดมากน้อยไม่เหมือนกันคะ) ของเป้จะเป็นรอยช้ำมากหน่อย แต่ไม่ปวดนะคะจะตึงๆมากกว่าพอใส่ชุดเข้าไปก็จะไปดามตรงที่เราตึงๆอยู่ ทำให้ไม่ได้คะแนนก็จะเดินไป แต่ก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน 55
แต่ยิ่งใส่ชุดยิ่งรู้สึกว่ากระชับดีมากเลยคะคุณหมอให้ใส่ 2 เดือนเป้กะว่าจะใส่สัก 3 เดือนไปเลยแถม ๆ เพราะเป้เป็นคนบวมง่ายเลยอยากให้กระชับแบบอยู่ตัวไปเลย
ที่สำคัญเลยคือต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องเพราะอย่างที่เป้ลงทุกวันเลยว่าอาการตึงๆข้างในผิวและรอยช้ำจะยังมีอยู่ แต่อาการนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จะอยู่ตัวจริงๆคือ 3-6 เดือนยิ่งกลางวัน พวกเราเดินกลางคืนเราพักผ่อนให้ทานยาตามที่แพทย์สั่งแบบนี้
อย่างวันนี้วันพักผ่อนอีกวันวันนี้ก็เลยจะเดินออกกำลังกายไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ ค่ะช่วงนี้ก็พักผ่อนชิว ๆ ไปคะไม่ต้องไปรพ. แล้วรออาทิตย์หน้าเตรียมตัดไหมที่จมูกหลังหูที่รพ. บาโน บากิก่อนกลับไทยเท่านั้นค่ารอติดตามกันนะคะคะเพื่อน ๆ
☀
หลังผ่าตัดวันที่ 14 (เพลงวันที่ 8)
: นัดสุดท้ายการเตรียมการทั้งหมดเตรียมกลับไทยแล้วจ้า
สวัสดีคะวันนี้ตื่นมาด้วยความสดชื่นเตรียมตัวไปตัดไหมที่จมูกและหลังหู (ที่เราผ่าตัดเอากระดูกอ่อนหลังหูมาเสริมปลายจมูกค่ะ) หลังตัดไหมเสร็จก็จะเตรียมตัวกลับไทยแล้วนะคะเพื่อน ๆ ดีใจคิดถึงบ้าน นน
วันนี้ก็เช่นเคยคะช่วงเช้าเราก็เตรียมตัวล้างแผลให้สะอาดโดยเฉพาะในโพรงจมูกล้างหลายรอบหน่อย (ทางน้องที่เป็นล่ามเคยบอกค่ะว่าถ้าเราล้างเองให้สะอาดคุณพยาบาลเค้าก็จะไม่ล้างเราเยอะ 555 )
โดยรวมใบหน้าจมูกเริ่มยุบเข้าที่ขึ้นเรื่อย ๆ คะเอาจริงๆดูแทบไม่ออกว่าบวมอยู่คุณหมอเก่งมากกกกส่วนตัวที่เราดูไขมันอันนี้ตึงๆปกติค่ะตื่นมาทุกเช้าเป้จะเน้นยืดแขนขาเบา ๆ แล้ว เดินรอบห้องวอร์ม ๆ ก่อนทานข้าวเช้าจากนั้นจะเซ็ตเวลาไปเดินจริงจังสัก 2-3 ชั่วโมงเช้าเย็นคือเดินพอเหนื่อยแล้วก็มาพักยกขาสูง ๆ พอเช้าอีกวันก็สังเกตได้เลยคะว่าตัวเราจะ ยืดหยุ่ และลดการตึงลงไปจากเมื่อวานได้เยอะเลยตัวเราก็จะลดบวมค่อยๆลงจริงๆ
จุดสำคัญนะคะคุณหมอย้ำตั้งแต่หลังผ่าตัดเลยค่ะว่าเราต้องเดินออกกำลังกายเบา ๆ หลังผ่าตัด แต่ไม่ต้องหักโหมมากอย่านอนเฉยๆคือบางคนระบมก็กลัวเดินแล้วจะเจ็บเลยจะอยู่เฉยๆซึ่งแบบนี้ไม่ดีกับ คนที่ซ่อมเลยค่ะจะทำให้ช้าลงมาก
เป้นี้เดินตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นเลยค่ะถามว่าเจ็บไหมวันแรกระบมเยอะอยู่แล้วคะ แต่เป้อดทนพยายามเดินตามที่คุณหมอบอกก็ฟื้นตัวเร็วจริงค่ะอย่างวันนี้หลังจากไปรพ. บาโนบากิตัดไหมเสร็จ แล้วจะไปเดินกาโรสุกิล / Garosu-gil ช๊อปปิ้งเบา ๆ ก่อนกลับไทยต้องบอกว่าที่นี่เป็นย่านช็อปปปิ้งสุดฮิปแห่งหนึ่งของโซลเกาหลีเลยนะคะที่มี แต่ของน่าสนใจค่ะผู้ คนแต่งตัวสวย ๆ มาเดิน ันให้อารมณ์คล้าย ๆ แถวสยามที่ไทยเลยคะของกินก็เยอะที่นี่ใกลโรงแรมเดิมที่เป้อยู่ช่วงที่เพิ่งผ่าตัดใหม่ ๆ พักแถวกาโรสุกิล / Garosu-gil นี้แหละค่ะแอบมาเดินในชุด วอร์มรองเท้าแตะใส่หมวกหน้าแปะเฝือกเดินเล่นวน ๆ อยู่แถวนี้บ่อยเลยค่ะหลายคนอาจจะเคยเจอเป้เดินผ่านก็ได้นะคะ 555 หัวยุ่ง ๆ (ไม่ได้สระผมเป็นอาทิตย์) ตัวแข็ง ๆ (เพิ่งผ่าตัดตัวยัง แน่นอยู่มากกก) หน่อยอะคะเมา ์มานานแล้วได้เวลาแล้วเตรียมตัวไปรพ. ดีกว่าค่า
ถึงรพ. 11.30 น. บาโนบากิตามเวลาเป๊ะ 11.30 น. วันนี้มีตัดไหมจมูกและหลังหูกับเช็คแผลทั้งหมดโดยคุณพยาบาลและได้พบคุณหมอโนยงจุนคุณหมอที่ผ่าตัดให้เป้ทั้ง 2 รอบเป็นคุณหมอเจ้าของไข้นั้นเองค่ะดีใจมากกกกกได้เจอคุณหมอก่อน กลับไทยขอถ่ายรูป (อีกรอบ 555) คุณหมอถามถ่ายอีกเหรอคือเคยถ่ายแล้ววันก่อนที่จะผ่าตัดจมูกเลยบอกคุณหมอว่าตอนนั้นจมูกยังไม่สวยค่าวันนี้สวยแล้วด้วยฝีมือคุณหมอขอถ่ายอีกรอบ นะคะค ณ หมอน่ารักมาก ๆ คะใจดีมากด้วยถามเราว่าเป็นยังบ้างที่ทำไปชอบมั้ยโอเคมั้ยมีอะไรอยากถามคุณหมอมั้ยบอกเลยค่ะว่าชอบมากกกและไม่มีอะไรจะถามคุณหมอเลยแบบ นึกไม่ออกเพราะเราโอเคจริงๆด้วยเวลาที่คุณหมอมี แต่คุณก็ยังอุตส่าห์
เสร็จจากรพ. เราก็ไปช็อปปิ้งข้าวแล้วกลับที่พักเพื่อเก็บของค่ะเตรียมเดินทางกลับไทย
วันมะรืนเหลือเวลาเดินเล่นพรุ่งนี้อีกวันก็ชิว ๆ แล้วค่ะเดี๋ยวเดี๋ยวมาปรับปรุงอีกทีนะคะ
WEEK 1: หลังกลับไทยสัปดาห์แรกอาการยังเป็นยังไงเหรอ?
(ศัลยกรรมครบ 3 อาทิตย์แล้วน๊า!)
WEEK 1: หลังกลับไทยสัปดาห์แรกอาการยังเป็นยังไงเหรอ?
(ศัลยกรรมครบ 3 อาทิตย์แล้วน๊า!)
สวัสดีไทยแลนด์บอกเลยว่าจะพลาดเมืองไทยมากกกกก
ที่จริงประมาณ 2 สัปดาห์ก็กลับไทยได้แล้ว (เป้ผ่าตัด 2 รอบนะคะอยู่นานนิดนึง)
มาอัพเดทอาการหลังกลับไทยกันดีกว่าค่ะขอแบ่งเป็นอย่างนี้นะคะ
ขอให้มีส่วนร่วมกันก่อนว่าจะทำอะไรได้บ้าง
1. เอนโดไทน์หน้าผากเป็นการยกกระชับหน้าผากด้วยวัสดุเอนโดไทน์ช่วยลดริ้วรอยและช่วยให้ตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องทำตาสองชั้น
2. การเดินทางครั้งต่อไปเพื่อการท่องเที่ยวครั้งต่อไป
กรอบรูปหน้าดินนิรภัยที่เรียวสวย
4. ไขมันที่ฉีดหน้า: ภาพประกอบโดยใช้ไขมันที่ดูดออกจากเนชั่ร่างกายเราคัดแยกไขมันดีมาเติมร่องลึกเพื่อให้หน้า: ภาพประกอบมีมิติมากยิ่งขึ้นฉีดทั้งหมด 7 ค่ะจุด ขมับ, ร่องแก้ม, ข้างแก้ม 2 จุด, และใต้คาง 1 จุด
5. เเท๊บกระดูก
ไขมันทั้งตัวเป็นการดูดไขมันดูด 6. เพื่อเกินส่วนกระชับรูปร่างหุ่นเพรียวสวยให้ มีสัดส่วนมากขึ้นชัดเจน
ทั้งหมดนี้แบ่งการผ่าตัดเป็น 2 ครั้งนะคะคือข้อ 1-4, 6 ผ่าตัดพร้อมกับครั้งเดียวค่ะ (ผ่าตัดรอบที่ 1) ส่วนข้อ 5 เสริมจมูกจะผ่าตัดรอบที่ 2 (เว้นจากรอบแรก 1 สัปดาห์)
☀
จุดแรกเลย 1. คือหน้าผากที่รอยไหมเอ็นโดไทน์จุดนี้ยังตึงที่ศรีษะอยู่มาก แต่น้อยลงกว่าตอนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ แค่ตึงนะคะไม่เจ็บใต้ผิวจะจับแล้วรู้สึกนูน ๆ อยู่หน่อย ๆ ตรงนี้คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวประมาณ 2-3 เดือนจะสะสมไปเอง
จุดที่ 2. เกลี่ยไขมันใต้ตาอันนี้ชอบมากกกกคืออันนี้ปกติมากไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผ่าตัดจนวันนี้ปกติดีทุกอย่างเพิ่มเติมคือไม่มีถุงใต้ตาให้ดูเหนื่อยล้าอีกต่อ ไปแล้ว
จุดที่ 3. สลายไขมันกรอบหน้าตรงนี้ต้องบอกว่าจะมีการตึงๆบริเวญใต้ค้างนิดนึงแทบไม่รู้สึก (ถ้าเราไม่เงือยหน้ามาก ๆ ) เพื่อนที่เจอต่างบอกว่าหน้าเราดูเล็กลง
จุดที่ 4. ฉีดไขมันที่หน้าหน้าดูอิ่มลดอายุลงไปได้เยอะเลยค่ะใคร ๆ ก็ทักว่าเด็กดูขึ้นถ้าเทียบอายุจริง (42 ปี) เหมือนลดวัยไป 10 ปีเลยค่ะปลื้มมากค่ะที่สำคัญคางเรา ดูฉีดขึ้นรูปสวย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
จุดที่ 5. เสริมจมูกกระดูอ่อนหลังหูตัดปีกจมูกจุดนี้เรียกว่าเด่นที่สุดแล้วเพราะว่าปกติจมูกไม่ชัดไม่มีดั้งนั้นเองค่ะพอเสริมมาปุ๊ปมันชัดหน้าเราดูมีมิติมากขึ้นที่สำคัญหลายคนบอก ถ้าไม่บอกเค้าว่าสวยและธรรมชาติมาก
แผลด้านในเริ่มแห้งแล้ว (สังเกตจากการล้างจมูก) แต่ยังมีน้ำมูกตอนเช้า ๆ อยู่อาการตึงๆที่จมูกยังมี แต่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะภายนอกแทบไม่มีรอยแผลอะไรเลยแต่งหน้าได้ปกติมาก ๆ
จุดที่ 6. ดูดไขมันทั้งตัวเพื่อกระชับรูปร่างให้สมส่วนมากขึ้นอันนี้ไม่ใช่การดูเพื่อลดน้ำหนักนะคะ แต่เป็นการดูเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออกไปคุณหมอบอกว่าจะใช้เวลาเข้าที่ประมาณ 3-6 เดือนโดย น้ำหนักเราอาจจะไม่ได้ลดลงมาก แต่สัดส่วนเราจะลดลงมากขึ้นกว่าช่วงแรก ติดกัน 2 เดือนตอนนี้อาการตึงก็ยังมี แต่น้อยลงเยอะมากรอยช้ำเริ่มจางลงต้องบอกว่าปลื้มสุด ๆ สำหรับเป้คือยังไม่เข้าที่ดีนะคะ แต่สัดส่วนลงแล้วเพราะขนาดเสื้อผ้าเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ แต่ เดิมคือ L- XL แต่ตอนนี้ MS ค่ะ S นี่อาจจะยังแน่นนิด ๆ แต่คิดว่าน่าจะลงได้อีกค่ะช่วงนี้เป้ก็เริ่มมาวิ่งออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หักโหมนะคะเพราะร่างกายเพิ่งฟื้นตัวคุณหมอแนะนำว่า คนที ดูดไขมันมาควรออกกำลังกายระวังเรื่องอาหารของมันของทอดควรงด
อัพเดทหลังผ่าตัด 3 เดือนครึ่ง
ตอนนี้ครึ่งทาง 3 เดือนกว่า ๆ ของระยะเข้าที่ ( 6 เดือน) ทุกอย่างเริ่มขณะนี้คุณตัวตามที่ที่คุณคุณหมอนี่เพื่อดูรูปภาพเป๊ะ ๆ เลยแฮปปี้มาก ๆ เป้ทำกิจกรรมทุกอย่างตามปกติเลยค่ะอาหารก็ทานปกติทุกอย่าง
เพลงแค่ควรเปลี่ยน พฤติกรรมการสูญเสียน้ำหนักและออกกำลังกายค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนกำลังสนใจทำศัลยกรรมทำวันนี้สวยวันนี้ศัลยกรรมไม่น่ากลัวอย่างที่คิดถ้าเราเลือกโรงพยาบาลที่ดีมีคุณหมอที่เก่งและทีมดูแลมืออาชีพเท่านี้เราก็วางใจและมั่นใจได้เลยค่ะ
✿✿✿✿ ✿✿✿✿
หมายเหตุ ภาพ Before After บนเว็บไซต์ ทั้งหมด ผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป และราคาหรือโปรโมชั่นศัลยกรรมและความงามอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนรับบริการ สามารถอ่านเงื่อนไขได้ที่ เงื่อนไขการให้บริการ
번역 저작권자 - Oppa Me Global 성형외과 미디어 플랫폼
Comments